สนมั้ย ? นามบัตรใบละ 55,000 บาท

“ของที่มีคุณค่าแพงแค่ไหนก็มีคนอยากซื้อ”

วันนี้มีอีกกรณีศึกษาให้กับเจ้าของกิจการขนาดเล็ก ที่ทำธุรกิจอย่างชาญฉลาด ไม่จำเป็นต้องทำเยอะแต่ได้เงินเยอะ ไม่ไปแข่งเรื่องราคา แต่ขายความแตกต่างที่มีคุณภาพ เป็นการตั้งโจทย์จากฝั่งลูกค้า ว่าเค้าต้องการอะไร คุณค่าที่ลูกค้าเห็นอยู่ตรงไหน แล้วคิดย้อนกลับมาว่าเราจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร

โดยตัวอย่างที่นำมาแบ่งปันเป็นของ บริษัท Black Astrum บริษัทจากประเทศอังกฤษที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการออกแบบเครื่องเพชร ด้วยความคุ้นเคยกับความต้องการลูกค้าระดับมหาเศษฐีทั่วโลก ที่ต้องการมีทุกสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนและสถานะของตัวเอง

Black Astrum เลยออกแบบสินค้าที่ไม่มีใครคิดว่า จะขายได้ในราคาแพงเช่นนี้ นามบัตรใบละ 1000 ปอนด์ หรือประมาณ 55,000 บาท ฟังดูแล้วราคาแพงมากเมื่อเทียบกับนามบัตรทั่วไป แต่ถ้าเปลี่ยนชื่อเป็น Signature Card มูลค่าของมันจึงดูสมเหตุผลกับราคา

นอกจากเพชรน้ำงามแล้ว นามบัตรดังกล่าวยังผลิตจากโลหะคุณภาพเยี่ยมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งนี้ นามบัตรชุดหนึ่งๆ สามารถฝังเพชรได้สูงสุดถึงกว่า 30 กะรัต โดยลูกค้าสามารถสั่งทำได้ตั้งแต่ 25, 50 หรือ 100 ใบ ด้วยเหตุที่เป็นนามบัตรชนิดสั่งทำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ราคาจึงขึ้นอยู่กับรูปแบบและความต้องการของลูกค้า

โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้ากระเป๋าหนักทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐีระดับแถวหน้าในแถบยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง สั่งทำนามบัตรฝังเพชรในสไตล์ที่ตนต้องการ

615x330_bcard3

615x330_bcard4

Diamonds-Signature-Cards-by-Black-Astrum-6

ไอเดียดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่บริษัทฯ เคยได้รับคำสั่งจากลูกค้าเศรษฐีรายหนึ่งในแถบตะวันออกกลางให้ทำการผลิตนามบัตรฝังเพชร หลังส่งมอบนามบัตรดังกล่าวให้ลูกค้าแล้ว บริษัทฯ จึงออกหนังสือเชิญชวนลูกค้าเป้าหมายรายอื่นๆ ก่อนที่จะเปิดตัวไลน์สินค้า “ซิกเนเจอร์ การ์ด” อย่างเป็นทางการ

ผู้บริหาร Black Astrum เปิดเผยว่า นามบัตรฝังเพชรดังกล่าวได้รับความสนใจทั้งจากคนดังในสหรัฐอเมริกาและบรรดานักลงทุนต่างชาติ แต่บริษัทฯ จะรับผลิตให้กับลูกค้าที่ได้รับหนังสือเชิญชวนหรือผ่านการคัดเลือกจากทางบริษัทฯ เท่านั้น

เห็นมั้ยครับว่าของดีๆ มีแต่คนแย่งซื้อ ตีโจทย์ให้แตก ว่าจะทำอย่างไงให้สินค้าเราเป็นที่ต้องการของลูกค้า

สนมั้ย ? นามบัตรใบละ 55,000 บาท